วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

จากนายสองเท้าถึงพี่ก้อง

ทรงกลด บางยี่ขัน

ชื่อนี้เคยไม่คุ้นหูผม ไม่ว่าจะเป็นชื่อ หรือผลงาน

งานชิ้นแรกที่อ่านของพี่เขาคือเรื่องหน่อไม้ ที่เขียนกับพี่เอ๋นิ้วกลม และพี่อัพ 

อ่านเรื่องนั้นไป ปาดน้ำตาไป ซึ้งกับข้อความหลายๆหน้า หรือเรื่องราวที่บอกเล่าผ่านมุมมองของคน ๓ คนและคนอีกมากมาย

หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจอ่านงานของพี่เขา เพราะกำลังสนใจบันทึกการเดินทางของนิ้วกลมอยู่

วันหนึ่ง เพื่อยื่นหนังสือมาให้เล่มหนึ่ง ชื่อ ทางรถไฟสายดาวตก

ผมก็รับมา จากนั้นก็เริ่มเปิดอ่านจากหน้าแรก

นับจากวินาทีนั้น ผมวางหนังสือเล่มนี้ไม่ลงอีกเลย

ผมชอบทั้งรสนิยมและวิธีการท่องเที่ยวของพี่เขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งเป็นวิธีการเดินทางโปรดวิธีหนึ่งของผมเอง

หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมอยากไปลองนั่งรถไฟต่างๆในเล่มขึ้นมาตะหงิดๆ 

หลังจากนั้นก็ตัดสินค้นหาชื่อพี่ก้อง(ทรงกลด) ไล่ดูรายชื่อหนังสือทั้งหมดเท่าที่ห้องสมุดมี และกวาดหนังสือบันทึกการเดินทางของพี่เขามาอ่านหลายเล่ม

สองเงาในเกาหลีเป็นเล่มที่ ๒ ที่หยิบมาอ่าน หนังสือเล่มนี้ยิ่งทำให้ชอบพี่เขามากขึ้น ชอบวิธีการเดินทาง วิธีการเล่าเรื่อง สิ่งต่างๆที่พบเจอ ล้วนน่าลองน่าค้นหามาก

เล่มปัจจุบันที่กำลังอ่าน ดาวหางเหนือทางรถไฟเปิดโลกการท่องเที่ยวให้ผม ทำให้ผมรู้ว่ามีการเดินทางด้วยโครงข่ายรถไฟที่เชื่อมต่อประเทศมากมายเข้าด้วยกันเป็นผืนเดียว ทำให้ความฝันที่จะนั่งรถไฟเที่ยวของผมกว้างไกลออกไปอีกหลายพันกิโลเมตร

ผมยังอ่านเล่มนี้ไม่จบหรอก แต่จะอ่านจบแน่ และตั้งใจว่าจะต้องเก็บมาเป็นเจ้าของให้ได้

ขอขอบคุณพี่ก้อง ทรงกลด บางยี่ขัน ที่เปิดมุมมองของผมให้กว้างขึ้นครับ

ปล. ถ้ามีโอกาส ผมก็อยากจะพูดคุยสอบถามเรื่องราวการเดินทางด้วยรถไฟที่พี่เจอมาจัง 

ที่มาภาพ : http://kbeautifullife.askkbank.com/education/education_news_images/content03/thongklod1.jpg

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

พาหะนำพา

ผมเป็นคนกรุงเทพ เกิดที่นี่ โตที่นี่ เรียนมหาวิทยาลัยก็ที่นี่

เมืองหลวงของประเทศไทย เมืองที่มีวิธีการขนส่งเราจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งให้เลือกมากมาย ตั้งแต่รถไฟ รถไฟฟ้าบนดิน รถไฟฟ้าใต้ดิน รถเมล์ รถบัส รถกระป๋อง รถส่วนตัว รถสองแถว รถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง  จักรยานยนต์ส่วนตัว จักรยาน เรือ เครื่องบิน ไปจนถึงสองเท้าที่ติดตัวมาแต่เกิด

มากมายจริงๆ ไม่รู้ว่าที่ไล่ไปครบรึเปล่า แต่เท่าที่เคยใช้และนึกออกน่าจะประมาณนี้

แต่ถ้าจะให้จัดเบสท์ ๓ ที่ชอบที่สุด อันดับ ๓ ผมยกให้รถเมล์ พาหนะที่มีให้เลือกหลายสาย หลายขนาด หลายประเภท ทั้งรถแอร์ รถไม่แอร์ รถสีส้ม ครีมแดง ครีมน้ำเงิน ขาว 
ผมชอบรถเมล์เพราะราคาที่ไม่ได้แพงมาก และสามารถขนส่งเราจากที่หนึ่งไปที่หนึ่งได้โดยสามารถมองดูผู้คนและระหว่างทางได้

อันดับ ๒ ผมยกให้รถไฟ พาหนะแสนเชื่องช้าที่พาเราขนส่งข้ามจังหวัดด้วยความเร็วต่ำ(ยกเว้นคุณจะนั่งสปรินเตอร์ซึ่งไว) ผมชอบรถไฟเพราะได้ดูวิวระหว่างทาง แม้จะช้าไม่ทันใจหลายคน แต่ก็เป็นพาหนะที่ทำให้เราได้เห็นความสำคัญของสิ่งที่อยู่รอบตัวและระหว่างทาง

อันดับ ๑ ผมยกให้สองเท้าที่ติดตัวมาแต่เกิดนี่แหละ พาหนะที่เชื่องช้าที่สุด แต่ถามว่าทำให้ผมจัดให้เป็นอันดับ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นทางที่ผมเลือกบ่อยที่สุด ทั้งไม่เสียสตางค์ ได้ออกกำลังกาย และยังได้มองสิ่งที่อยู่ข้างทาง ทำให้เราสามารถจดจำตำแหน่งที่ตั้งต่างๆได้ดีกว่าพาหนะหลายๆอย่างๆ

จะเห็นว่า ตัวเลือกของผมส่วนใหญ่ที่ชอบมักจะมีคำว่า "ระหว่างทาง" อยู่เสมอ

ครับ ผมเป็นคนชอบระหว่างทาง

เพราะระหว่างทางเป็นสิ่งที่อยู่ระหว่างต้นทางกับปลายทาง เป็นสิ่งที่เราจะต้องผ่านอย่างไม่มีทางหลบเลี่ยง

ถามว่าระหว่างทางดียังไง 

ระหว่างทางดีตรงที่ทำให้เราเห็นว่า ความสวยงามไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ต้นทางหรือปลายทางเสมอไป ระหว่างทางเองก็มีสิ่งที่สวยงามเช่นกัน 

แม้บางครั้งอาจมีสิ่งที่ไม่สวยงามเข้ามาปะปน แต่นั่นก็ทำให้เราได้เรียนรู้

ผมเชื่อว่าทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบไม่มีจริง(ยกเว้นคุณจะโปรยมันระหว่างทางที่คุณเดิน)

ไม่มีทางไหนที่ปลอดภัย๑๐๐% สะอาด๑๐๐% ดี๑๐๐%

ทุกเส้นทาง ทุกพื้นที่ล้วนมีความน่าเกลียด ความสกปรก ความอันตรายอยู่เสมอ เพียงแต่มันอาจจะแอบอยู่ในสิ่งที่คุณคิดว่ามัน "สวยงาม"

ระหว่างทางนี้เองที่จะเป็นสิ่งที่บอกกับเราว่า ยังมีสิ่งเหล่านี้อยู่ในโลก

ผมไม่ได้หมายความว่าคนโลกสวยเป็นคนที่มองโลกไม่เป็น

แต่สำหรับตัวผม โลกนี้มีทั้งความสวยและความขี้เหร่ มีทั้งด้านดีและด้านชัว มีทั้งด้านปลอดภัยและอันตราย เหมือนกับหยินหยาง

จะมองโลกเพียงด้านเดียว หรือจะยอมรับโลกทั้งสองด้าน

คุณเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสิน