เหตุผลที่ไปก็ไม่มีอะไรมากครับ แค่อยากไปเท่านั้นเอง แต่นอกจากนั้นก็คือไปเยี่ยมญาติและสักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ผมเลยแถมว่าอยากแวะดูมัสยิดและสถานที่บางแห่งที่พอไปได้ด้วย
จากการสอบถามอาแปะที่เป็นคนหาดใหญ่ได้ความว่า พื้นที่แถบนั้นแม้จะมีข่าวเรื่องระเบิดต่างๆ และมีบางพื้นที่ที่ยังอันตรายอยู่(สถานที่ืั้อยากไปส่วนหนึ่งของผมอยู่ในนั้นด้วย) แต่พื้นที่บางส่วนก็ยังสามารถเดินทางเข้าไปได้อยู่
ทันทีที่ข้ามชายแดนจากจังหวัดสงขลาเข้าสู่จังหวัดปัตตานี สิ่งแรกที่เห็นก็คือ ปริมาณมัสยิดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย เมื่อเทียบกับสงขลา มัสยิดตั้งอยู่ริมถนนเรียงรายกันจำนวนมาก มีทั้งเล็กทั้งใหญ่ ลักษณะแตกต่างกันไป ทำให้รู้สึกเหมือนข้ามไปอยู่อีกพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย
เพราะแม้ส่วนตัวจะเที่ยวมัสยิดมาบ้าง แต่ก็ล้วนอยู่ในพื้นที่ที่มีคนพุทธเป็นประชากรส่วนใหญ่ ต่างจากแถบย่านนั้นที่มีมุสลิมเป็นประชากรส่วนใหญ่
บรรยากาศในส่วนตัวเมืองก็เช่นเดียวกับด้านนอก มีมัสยิดมากกว่าวัด คนจำนวนมากพูดภาษามุสลิมที่ผมฟังไม่ออก
ถามว่าการเข้าไปรูสึกกลัวไหม ไม่ปฏิเสธว่ากลัวนะ อาจจะเพราะเราเสพข่าวไปมากพอสมควรด้วย แต่พอได้เข้าไปสัมผัสจริงๆก็ไม่ได้รู้สึกกลัวมากมายอะไร
ถ้าถามว่าอยากไปอีกไหม ถ้ามีโอกาสจะกลับลงไปอีกสักครั้ง เพราะยังไม่ได้ลงไปนราธิวาสเลย และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่อยากไปแต่ยังอยู่ส่วนที่อาแปะบอกว่าอันตรายอยู่
แม้การลงไปครั้งนี้(ทั้ง ๒ จังหวัด) จะมีเวลาไม่มาก เที่ยวได้ไม่เต็มวันดี แต่อย่างน้อยก็รู้สึกว่า ทัศนคติที่มีต่อพื้นที่ปลายด้ามขวานของตัวเองเปลี่ยนไปเยอะ เพราะก่อนหน้านี้ป๊าเคยชวนลงไป แต่ผมยังกลัวอยู่เลยไม่ได้ไปเลย
แล้วผมจะกลับไปอีกนะ
มัสยิดระหว่างทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น