นั่นเป็นคำนิยามตัวเองของผม
ผมอาจจะไม่ได้มีชั่วโมงบินในการท่องเที่ยวต่างประเทศมากนัก แต่ถ้าในเมืองไทยผมไปมาพอสมควร
ถ้าปกติไปเที่ยวกับครอบครัวเราก็จะใช้พาหนะอย่างรถส่วนตัวเป็นหลัก
แต่ถ้าไปเอง สองเท้าที่พระเจ้ามอบให้มนุษย์นี่แหละที่เป็นสุดยอดพาหนะ เพราะมันพาเราไปไหนก็ได้ แถมไม่เสียเงินสักอย่าง แถมยังไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นภัยต่อโลกด้วย
ผมเลยสนใจงานเสวนาเรื่อง "การท่องเที่ยวของคนไม่เอาถ่าน" มากเป็นพิเศษเพราะเป็นวิธีท่องเที่ยวที่ผมก็ใช้อยู่ด้วย
และผมก็สนใจตัวผู้พูด คือพี่มินท์กับพี่สิงห์
ผมติดตามพี่มินท์มาจากรายการหลง เทศกาลโลก ได้อ่านหนังสือของพี่เขาและชอบแนวคิดมันมาก ผมได้ข่าวงานนี้จากเฟซพี่เขานั่นแหละ
ส่วนพี่สิงห์ก็รู้จักผ่านรายการพื้นที่ชีวิตที่ได้ดูย้อนหลังบ้าง แต่ไม่ได้ติดมากนัก แต่ก็ชอบตัวรายการและวิธีนำเสนอหัวข้อต่างๆได้น่าสนใจ
ผมมาถึงไวเกินคาดเพราะรถไม่ติด เลยได้โอกาสถ่ายรูปกับทั้งสองคนในช่วงที่คนยังไม่เยอะ
พอเข้าไปในงาน ได้ฟังเรื่องราวของทั้งสองคน ก็รู้สึกอินไปกับประสบการณ์พวกนี้ แม้ผมจะไม่ค่อยได้ลงไปทำกิจกรรมกับชุมชนมากนัก แต่สถานที่ท่องเที่ยวในแนวศิลปวัฒนธรรมก็ไปมาอยู่
ช่วงถามคำถามทีแรกผมลังเลอยู่ 2 เรื่อง แต่ตัดสินใจถามเริ่องทริปโหดเพราะผมก็เป็นสายฮาร์ดคอร์เหมือนกัน พอได้ฟังคำตอบก็รู้สึกถึงพลังที่มากระตุ้นต่อมออกเดินทางให้ทำงานเยอะขึ้น
การมาที่นี่อาจไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเรียนโดยตรง แต่ก็เป็นสิ่งที่มาเติมเชื้อไฟขิงผมให้ลุกขึ้น พร้อมจะขยับตัวอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น